The Second National Conference on Public Affairs Management "Local Communities: Power of Thailand’s National Reform"

โครงการประชุมวิชาการระดับชาติด้านการบริหารกิจการสาธารณะ ครั้งที่ 2 “ชุมชนท้องถิ่น: พลังแห่งการปฏิรูปประเทศไทย”
วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2557 ณ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น

หลักการและเหตุผล

        นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส François-Marie Arouet หรือที่ประชาคมโลกรู้จักกันในชื่อ Voltaire ได้ปรารภไว้ว่า “[We] live in curious times and amid astonishing contrasts; reasons on the one hand, and the most absurd fanaticism on the other….a civil war in every soul” (พวกเราใช้ชีวิตอยู่ในช่วงระยะเวลาที่อัศจรรย์และท่ามกลางความแตกต่างทางความคิดที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยขั้วหนึ่งของความแตกต่างทางความคิดคือเหตุและผล แต่อีกขั้วคือความบ้าคลั่ง พวกเราทุกคนกำลังเผชิญกับสงครามกลางเมืองในจิตใจ) ถ้อยคำดังกล่าวของ Voltaire สะท้อนสถานการณ์และพลวัติทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศไทยในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในท่ามกลางความขัดแย้งทางด้านการเมืองระดับชาติในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับโจทย์สำคัญ คือ จะต้องดำเนินการ อย่างไรเพื่อให้ภาครัฐของไทยมีประสิทธิภาพและคุณภาพในการให้บริการสาธารณะมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนตามครรลองประชาธิปไตย

        ทั้งนี้ แกนหลักของกระบวนการปฏิรูปภาครัฐตามแนวทางการบริหารภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management) คือ การกระจายอำนาจให้แก่ชุมชนท้องถิ่น (Decentralization) (Kettl, 2005) เพื่อเป็นการลดขนาดของภาครัฐส่วนกลางให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพที่การกำหนดนโยบายในระดับมหภาค และเพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาชนให้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย (Nalbandian, 2002) และเนื่องจากหน่วยงานการปกครองท้องถิ่นเป็นหน่วยการปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยตอบโจทย์การปฏิรูปภาครัฐตามแนวทางการบริหารภาครัฐแนวใหม่ที่ดีที่สุด

        อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้างความเข้มแข็งให้แก่การปกครองท้องถิ่นก็ไม่ใช่ “ยาครอบจักรวาล (Panacea)” ที่จะสามารถเยียวยารักษาภาวะขาดค่านิยมประชาธิปไตยของสังคมไทยได้โดยปราศจากเงื่อนไข การกระจายอำนาจจะเป็น “ตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง (Change Catalyst)” ให้แก่สังคมไทยได้ก็ต่อ เมื่อเกิดกระบวนการปฏิรูปในทุกมิติของวิถีชีวิตของประชาชน อาทิเช่น มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านโครงสร้างสังคม มิติด้านการเมือง และมิติด้านการบริหารจัดการทรัพยากรภายในชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจาก กระบวนการกระจายอำนาจไม่ได้หมายถึงกระบวนการถ่ายโอนอำนาจในการบริหารกิจการสาธารณะจากหน่วยงานภาครัฐส่วนกลางสู่หน่วยงานภาครัฐในระดับท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการปฏิรูปความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในทุกมิติ (Cheema and Rondinelli, 2007)

        ด้วยความสำคัญของชุมชนท้องถิ่นต่อการปฏิรูปประเทศไทย วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงสนับสนุนให้มีการจัดประชุมวิชาการระดับชาติด้านการบริหารกิจการสาธารณะ ครั้งที่ 2 (The Second National Conference on Public Affairs Management) ในประเด็น ““ชุมชนท้องถิ่นกับการปฏิรูปประเทศไทย (Local Communities and Thailand’s National Reform)” เพื่อเปิดพื้นที่ทางวิชาการให้แก่นักศึกษา นักวิชาการ คณาจารย์ และสาธารณชนได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเกี่ยวกับสภาวการณ์ในมิติต่างๆของการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ การประชุมวิชาดังกล่าวยังจะเป็นเวทีสำคัญให้แก่นักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาได้พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของวิทยานิพนธ์และการศึกษาอิสระให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2548 ของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งถือเป็นกลไกที่สำคัญ ในการพัฒนาและขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่มีคุณภาพ

 

วัตถุประสงค์

       1. เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเสวนา แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์เกี่ยวกับผลการวิจัยระหว่าง นักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการ ทั้งในสถาบันเดียวกันและต่างสถาบันอันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นที่เป็นรูปธรรม
       2. เพื่อให้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและนักวิชาการได้เผยแพร่ผลงานวิชาการที่เป็นประโยชน์สู่สาธารณะ

 

ผู้เข้าร่วมประชุม

       ผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนประมาณ 500 คน ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลงานวิจัย เป็นนักวิชาการ/นักวิจัย หรือ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หรือผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ ทั้งของรัฐและเอกชนภายในประเทศ

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

       1. ผลงานวิจัยได้เผยแพร่สู่สาธารณะ และสามารถนำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้
       2. นักวิชาการ นักวิจัย และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้รับความรู้ทั้งในแง่ผลการวิจัยและการปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จด้านการปกครองและการบริหารการพัฒนาท้องถิ่น
       3. เกิดการพัฒนานวัตกรรมและศาสตร์แห่งการบริหารการพัฒนาท้องถิ่นที่สะท้อนสภาพความเป็นจริงและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์
       4. เกิดทุนทางสังคมที่พัฒนามาจากการเชื่อมโยงเครือข่ายซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลองค์ความรู้และทรัพยากรที่สำคัญสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของการพัฒนาระดับท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระดับชาติและระดับภูมิภาค

 

ข้อมูลติดต่อ

วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแแก่น
College of Local Administration, Khon Kaen University,Thailand
123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002
โทรศัพท์: 0-4320-3124 โทรสาร: 0-4320-3875 Url: http://cola.kku.ac.th/